น้ำมันมะพร้าว สกัดเย็น ก็คือ การผลิต น้ำมันมะพร้าว จากมะพร้าวโดยไม่ได้ใช้ความร้อน หรือสารเคมีใดๆ
โดยสกัดน้ำมันออกมาโดยวิธีธรรมชาติ ซึ่งกว่าจะได้ น้ำมันมะพร้าว
ในปริมาณหนึ่ง ๆ จึงใช้เวลานานพอสมควร เพราะไม่มีการเร่งโดยความร้อนและสารเคมี
ทั้งนี้การผลิต น้ำมันมะพร้าว โดยวิธีสกัดเย็นนี้
ก็เพื่อรักษาสภาพของสารต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ในเนื้อ น้ำมันมะพร้าว
ให้คงอยู่ และยังป้องกันไม่ให้โมเลกุลใน น้ำมันมะพร้าว จับตัวกันและแปรสภาพเมื่อโดนความร้อน
ซึ่งอาจเป็นโทษต่อร่างกาย
เราจะสังเกต น้ำมันมะพร้าว สกัดเย็น ว่าผลิตโดยวิธีสกัดเย็นแท้ ๆ
ได้โดยดูจากการแข็งตัวจนเป็นไข เมื่อ น้ำมันมะพร้าว นั้น ๆ
อยู่ในที่ที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส ซึ่งหาก น้ำมันมะพร้าว ไม่มีลักษณะเป็นไขในที่อุณหภูมิดังกล่าวแสดงว่า
น้ำมันมะพร้าว นั้นผลิตโดยผ่านกรรมวิธีที่ใช้ความร้อนหรือสารเคมี
ไม่ได้ผลิตโดยการสกัดเย็นตามธรรมชาติ ซึ่งทำให้เกิดการจับตัวของโมเลกุลใน น้ำมันมะพร้าว
และเกิดการเปลี่ยนแปลงของโมเลกุลไป
เมื่อ น้ำมันมะพร้าว เป็นไข ก็เพียงแค่ทำให้อุ่นขึ้น โดยอาจจะนำขวด น้ำมันมะพร้าว
นั้น ๆ แช่ในน้ำอุ่น ๆ หรือ เพียงแค่วางทิ้งไว้ในอุณหภูมิปกติที่ไม่เย็นสักพัก น้ำมันมะพร้าว
ก็จะหายเป็นไข กลับมาใสเหมือนเดิม หรืออาจจะใช้ไดร์เป่าผม เป่าก็ได้
ก็จะช่วยให้หายเป็นไขได้เร็วขึ้น โดยข้อดีประการหนึ่งของการทำ น้ำมันมะพร้าว
สกัดเย็น ให้อุ่น คือ น้ำมันมะพร้าว อุ่น ๆ จะสามารถแทรกซึมผ่านผิวหนัง
และรูขุมขนได้ดีขึ้นมาก ซึ่งจะมีประโยชน์ต่อการใช้ น้ำมันมะพร้าว สกัดเย็น
ในการบำรุงผิว และ ดูแลรักษาความงาม
น้ำมันมะพร้าว สกัดเย็น มีกรดไขมันที่มีคาร์บอนในโมเลกุลเพียง 8
– 12 ตัวเป็นส่วนมาก ต่างกับน้ำมันชนิดอื่น ๆ ที่มักเป็นกรดไขมันสายยาว
คือมีคาร์บอนในโมเลกุลตั้งแต่ 14 ตัวขึ้นไป ซึ่งการที่ น้ำมันมะพร้าว สกัดเย็น
เป็นกรดไขมันสายปานกลาง ก็จะมีข้อดีคือ ช่วยให้ ร่างกาย ย่อยอาหารได้ง่าย เปลี่ยนเป็นพลังงานได้เร็ว
และไม่สะสมตามเซลล์ไขมัน
หรือเกาะตัวตามผนังหลอดเลือดเหมือนน้ำมันชนิดอื่นที่เป็นสายยาว
น้ำมันมะพร้าว สกัดเย็น เป็นไขมันอิ่มตัว
ซึ่งก็เป็นความจริงที่ว่าไขมันอิ่มตัวจะทำให้ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูงขึ้นได้
แต่ไขมันอิ่มตัวใน น้ำมันมะพร้าว สกัดเย็น เป็นไขมันอิ่มตัวชนิดดี จึงไม่ทำให้ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูงขึ้น
แต่ในทางกลับกัน น้ำมันมะพร้าว สกัดเย็น ช่วยให้ระดับคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL)
เพิ่มสูงขึ้นได้
และลดระดับของคอเลสเตอรอลชนิดร้าย (LDL) ลง
โดยข้อดีของไขมันอิ่มตัวข้อหนึ่งก็คือ โมเลกุลที่จับตัวกันอย่างแน่นหนา
จึงไม่แปรสภาพหรือเสื่อมเสียได้ง่าย โดยหากผสม น้ำมันมะพร้าว สกัดเย็น
กับน้ำมันไม่อิ่มตัวชนิดอื่น ๆ น้ำมันมะพร้าว สกัดเย็น
ก็จะช่วยรักษาน้ำมันไม่อิ่มตัวนั้น ๆ ให้ไม่เสียหรือเสื่อมสภาพไปง่าย ๆ
ด้วยเช่นกัน ปัจจุบันจึงมีการนำ น้ำมันมะพร้าว
ผสมลงในอาหารเพื่อเป็นการเก็บรักษาหรือถนอมอาหาร
ส่วนพวกน้ำมันที่เป็นไขมันไม่อิ่มตัว เช่น น้ำมันถั่วเหลือง
ก็จะเสื่อมสภาพได้ง่ายนั่นเอง จึงต้องมีการนำไปเพิ่มสารเคมีและให้ความร้อน
ซึ่งเรียกกันว่า น้ำมันผ่านกรรมวิธี ซึ่งจะทำให้การจับตัวของโมเลกุลกรดไขมันเปลี่ยนแปลงไป
เกิดเป็นกรดไขมันทรานส์ ซึ่งเป็นโทษกับร่างกาย ทำให้เกิดโรคมะเร็ง เบาหวาน
และโรคหัวใจ สำหรับ น้ำมันมะพร้าว สกัดเย็น เป็นไขมันอิ่มตัว
ไม่ผ่านกรรมวิธี คือสารเคมีและความร้อนใด ๆ จึงไม่มีกรดไขมันทรานส์
นอกจากนี้ แร่ธาตุที่สำคัญและวิตามินบางชนิด เช่น แคลเซียม แมกเนเซียม
เบตาแคโรทีน วิตามิน A, D, E, K ล้วนต้องละลายในไขมัน
ร่างกายจึงจะดูดซับไปใช้งานได้ คนเราจึงขาดไขมันไม่ได้ ซึ่ง น้ำมันมะพร้าว
สกัดเย็น นั้นย่อยง่าย เปลี่ยนเป็นพลังงานได้เร็ว และสกัดเย็นโดยวิธีธรรมชาติ
จึงไม่มีกรดไขมันทรานส์
จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะบริโภคเพื่อช่วยนำแร่ธาตุและวิตามินต่าง ๆ เข้าสู่ร่างกาย
การรับประทาน น้ำมันมะพร้าว สกัดเย็น
ในแบบต่าง ๆ
ใส่ผสมในน้ำผลไม้ กาแฟ หรือเครื่องดื่มต่าง ๆ
ใส่ในแกงจืด หรืออาการแกงต่าง ๆ ก็ได้
ใช้เป็นน้ำสลัด
ราดบนน้ำแข็งไส
น้ำมันมะพร้าว
สกัดเย็น ใช้ทอดอาหาร แทนน้ำมันพืชชนิดอื่น ๆ
โดยอาหารจะไม่ชุ่มน้ำมันและมีความกรอบได้นาน
หรือใส่ น้ำมันมะพร้าว สกัดเย็น
ลงไปพร้อมกับการหุงข้าว จำทำให้ข้าวนุ่ม หอม อร่อย