วันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2562

น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น บำรุงเส้นผม


          น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ช่วยทำให้เส้นผมดกดำเป็นเงางาม มีการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งพบว่า น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น สามารถแก้ไขการทำลายเส้นผมจากการหวีผม และยังช่วยให้เส้นผมมีสุขภาพดี โดยการศึกษาดังกล่าวได้มีการรายงานไว้ในวารสารวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง เกี่ยวกับบทบาทของ น้ำมันมะพร้าว ต่อสุขภาพเส้นผม
          เส้นผมเกิดจากการเจริญเติบโตของเซลล์ผลิตเส้นผม ซึ่งอยู่ในชั้นหนังแท้ใต้ผิวหนังศีรษะ เมื่อเซลล์เจริญเติบโตขึ้น เส้นผมก็จะถูกผลักขึ้น เกิดเป็นส่วนที่ตายแล้วและยืดยาวออกไปเรื่อย ๆ เส้นผมประกอบด้วย ส่วนนอกที่ทำหน้าที่หุ้ม กับส่วนใน ซึ่งทั้งสองส่วน มีส่วนสำคัญกับสุขภาพของเส้นผม กล่าวคือ หากส่วนนอกอยู่ในสภาพดีไม่ฉีกขาด เส้นผมก็จะปกติ มีความยืดหยุ่นดี ทนทานต่อการบิดงอ และมีความเหนียว ส่วนใน ประกอบด้วยโปรตีนที่เรียกว่า เคอราทิน (keratin) ที่ประกอบด้วยเส้นเล็ก ๆ มัดรวมกัน
          ความเสื่อมของเส้นผมนั้นเกิดได้จาก โปรตีนของเส้นผมที่สูญเสีย หรือสลายตัวไปตามอายุขัย แต่ก็อาจสูญเสียได้เร็วขึ้น ถ้าไม่มีการรักษาผมให้ดี หรือมีการทำร้ายเส้นผม เช่น การดัดผม การย้อมผมด้วยน้ำยาเคมี หรือแม้กระทั่งการหวีผมแรง ๆ ที่ใช้หวีที่คม ลักษณะของเส้นผมที่เสื่อมลงไป มีดังนี้
          ผมแห้งแตกปลาย, ผมร่วง, ผมบาง หัวล้าน, ผมหงอกก่อนวัย, รังแค
          น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ช่วยให้เส้นผมมีสุขภาพดีได้อย่างไร น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ช่วยลดปริมาณการสูญเสียโปรตีนของเส้นผม เพราะ น้ำมันมะพร้าว มีความคล้ายคลึงกับโปรตีนของเส้นผม จึงยึดเกาะเส้นผมได้ดี อีกทั้งโมเลกุลของ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น มีขนาดเล็ก จึงแทรกซึมเข้าไปในเส้นผมได้สะดวก ในขณะที่น้ำมันชนิดอื่น ๆ ที่นิยมใช้เป็นส่วนประกอบในอุตสาหกรรมน้ำมันใส่ผม เช่น น้ำมันแร่ หรือ น้ำมันทานตะวัน ไม่ได้มีส่วนช่วยต่อเส้นผมแต่อย่างใด เพราะไม่สามารถซึมเข้าไปในเส้นผมได้เหมือนกับ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น
          น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ยังช่วยรักษาสุขภาพของหนังศีรษะ เนื่องจาก น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น มีสารต่อไปนี้
-          สารปฏิชีวนะ กรดไขมันขนาดกลางใน น้ำมันมะพร้าว โดยเฉพาะกรดลอริก มีฤทธิ์เป็นสารปฏิชีวนะ ที่สามารถฆ่าเชื้อยีสต์ ที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดรังแคได้
-          สารต่อต้านการเติมออกซิเจน น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น มีสารต่อต้านการเติมออกซิเจนในปริมาณที่สูง ได้แก่ วิตามินอี สารไฟโตสเตอรอล และสารฟีนอล โดยเฉพาะวิตามินอี ใน น้ำมันมะพร้าว มีประสิทธิภาพสูงกว่าที่มีอยู่ในเครื่องสำอางถึง 40-60 เท่า สารต่อต้านการเติมออกซิเจนเหล่านี้ ทำหน้าที่ต่อต้านการเติมออกซิเจนที่ทำให้เกิดอนุมูลอิสระที่ทำอันตรายต่อหนังศีรษะ ดังนั้น หนังศีรษะจะไม่เหี่ยวย่น มีสุขภาพดี เป็นผลทำให้เส้นผมเจริญเติบโตได้ดี
          น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น จึงทำให้ผมสวยด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้
-          เส้นผมมีน้ำหนัก ดกดำเป็นเงางาม จากการที่ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ช่วยทำให้เส้นผมมีสุขภาพดี และช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผม น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น จึงทำหน้าที่เป็นสารปรับสภาพของผมอย่างดีเยี่ยม ช่วยให้เส้นผมมีน้ำหนัก และดกดำเป็นเงางาม
-          เส้นผมไม่แห้ง แดง และแตกปลาย เนื่องจาก น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ช่วยลดปริมาณการสูญเสียโปรตีนของเส้นผม จึงทำให้เส้นผมไม่แห้ง แดง และ แตกปลาย
-          ผมไม่ร่วงก่อนวัย จากการที่ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ช่วยลดปริมาณการสูญเสียโปรตีนของเส้นผม ยังช่วยให้เส้นผมไม่ร่วงก่อนวัย แม้กระทั่งผู้ที่ผมร่วงเพราะพันธุกรรม น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ก็ช่วยได้ หากเริ่มใช้ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น
-          ผมไม่หงอก หากพบว่าผมเริ่มหงอก และใช้ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น หมักผม เส้นผมที่งอกขึ้นมาใหม่จะกลับดกดำ แม้การเริ่มใช้เพียงครั้งแรก ก็จะพบว่าเส้นผมมีน้ำหนัก และดกดำยิ่งขึ้น
วิธีการใช้ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น หมักผม
          ริน น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น 1 ช้อนชาลงบนฝ่ามือ แล้วชโลมลงบนหนังศีรษะและนวดคลึงเส้นผม จากนั้น คลุมด้วยหมวกอาบน้ำ ใช้เครื่องเป่าผม เป่าให้แห้ง โดยใช้ความร้อนที่สูงที่สุดเท่าที่จะทนได้ หรือถ้าไม่เป่า ก็ปล่อยทิ้งไว้ 1-2 ชั่วโมงจนกว่าจะแห้ง แล้วสระผมด้วยแชมพู และครีมนวด (หากต้องการใช้หรือใช้อยู่เป็นประจำ) ตามปกติ
          หากได้หมักผมด้วย น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น เป็นประจำ เส้นผมจะอ่อนนิ่มอย่างมาก และดกดำเป็นเงางาม โดยไม่จำเป็นต้องใช้แชมพูและครีมนวมผมราคาแพงเลย

วันพุธที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2562

น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น กลั้วปากรักษาโรค (Oil Pulling)


          น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น มีคุณสมบัติที่โดดเด่นมากกว่าน้ำมันชนิดอื่น ๆ ในการกลั้วปาก (Oil Pulling) ซึ่งดีกว่าทั้งน้ำมันงา น้ำมันดอกทานตะวัน  ที่ตามตำราอายุรเวท เคยระบุใช้น้ำมันทั้งสองชนิดนี้มาก่อนในการกลั้วปาก แต่ปัจจุบันพบว่า น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น มีคุณสมบัติที่ดีกว่าในการกลั้วปาก ทั้งช่วยป้องกัน และรักษาโรคต่าง ๆ มากมาย ซึ่งคุณสมบัติเด่น ๆ ของ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ได้แก่
1.       น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น เป็นไขมันอิ่มตัว ที่มีสายโซ่ของโมเลกุลเป็นแขนเดี่ยว ซึ่งทำให้ ไม่เกิดการเติมออกซิเจน จึงไม่มีกลิ่นหืน และไม่เกิดอนุมูลอิสระ อีกทั้งยัง ไม่มีการเติมไฮโดรเจน จึงไม่ทำให้เกิดไขมันทรานส์
2.       น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น เป็นไขมันขนาดกลาง โดยโมเลกุลของ น้ำมันมะพร้าว ประกอบด้วยธาตุคาร์บอน 8-12 ตัว ต่างกับน้ำมันพืชชนิดอื่น ๆ ที่มีธาตุคาร์บอนมากถึง 14-24 ตัว ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น เบา ไม่หนืด จะสังเกตได้ว่าตอนที่กลั้วปาก น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น จะรู้สึกเคลื่อนที่ไปมาในปากได้สะดวกกว่าน้ำมันพืชชนิดอื่น ๆ ที่เป็นไขมันขนาดยาว ซึ่งจะทำให้รู้สึกว่าหนักและหนืดกว่า น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น จึงซอกซอนเข้าไปในซอกเล็กซอกน้อยในปากและฟันได้อย่างทั่วถึง ซึ่งเป็นที่อยู่ของเชื้อโรคต่าง ๆ ในช่องปากได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยนำเศษอาหารที่ติดอยู่ให้ออกมาจากซอกฟันได้ดีมาก และสามารถดึงเอาสารพิษต่าง ๆ ที่จุลินทรีย์สร้างขึ้นจากเศษอาหารที่ติดอยู่ตามซอกฟัน ไม่ให้เข้าทำร้ายร่างกายภายในได้
3.       น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น มีสารฆ่าเชื้อ กรดไขมันขนาดกลางของ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น โดยเฉพาะกรดลดริก ที่จะทำงานร่วมกับกรดไขมันขนาดกลางอื่น ๆ อีก 3 ตัว คือ กรดคาปริก กรดคาปริลิก กรดคาปริโอนิก หรือแม้กระทั่งกรดไขมันอิ่มตัวขนาดยาวของไขมันพืชชนิดอื่น ๆ คือ กรดไมริสติก ต่างก็สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ทั้งนั้น โดยฆ่าเชื้อโรคได้ทุกประเภท ทั้งแบคทีเรีย รา ยีสต์ ไวรัส และโปรโตซัว ซึ่งเป็นตัวการทำให้ร่างกายเสื่อมโทรม
4.       น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น มีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ เพราะมีวิตามินอี ทั้งในรูปของ tocopherol ที่มักมีอยู่ในเครื่องสำอาง และ tocotrienol ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่า tocopherol 40-60 เท่า และยังมีสาร phenol และ phytosterol ซึ่งช่วยต่อต้านการเติมออกซิเจนด้วย การเติมออกซิเจนนี้ทำให้เกิดการเสื่อมของเนื้อเยื่อ และอวัยวะ อันเป็นสาเหตุของโรคภัยไข้เจ็บมากมาย รวมถึงความชราภาพ โดย น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ไม่มีการเติมออกซิเจน โดยดูได้จากการที่ไม่มีกลิ่นหืน และยังไม่ทำให้เกิดอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ยังช่วยเติมสารการต่อต้านการเติมออกซิเจนให้กับร่างกายอีกด้วย
          น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น มีคุณสมบัติเด่น ๆ ดังที่กล่าวมานี้ จึงเป็นที่นิยมในการนำมากลั้วปาก (Oil Pulling) เพื่อสุขภาพที่ดีของร่างกาย นอกจากคุณสมบัติที่เหมาะสมต่าง ๆ แล้ว น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ยังเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่มีความปลอดภัยต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น คนป่วย เด็กทารก คนอ้วน คนที่มีโรคประจำตัว หญิงมีครรภ์ ก็สามารถบริโภค น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ได้อย่างปลอดภัย
          การที่ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น มีสภาวะเป็นน้ำมัน ซึ่งสอดคล้องกันทางเคมีกับน้ำมันเยื่อหุ้มเซลล์ของเชื้อโรค ทำให้เชื้อโรคในปากเหล่านี้เมื่อเจอกับ น้ำมันมะพร้าว มันก็จะดูดเอา น้ำมันมะพร้าว เข้าไปที่ตัวมัน น้ำมันมะพร้าว จึงสามารถดึงเอาเชื้อโรคต่าง ๆ ออกมาจากปากได้ทั้งหมดโดยง่าย และยิ่ง น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น มีโมเลกุลเล็ก ก็ยิ่งซอกซอนเข้าไปได้ทั่วทั้งปาก จึงสามารถทำความสะอาดช่องปากได้เป็นอย่างดี ซึ่งต่างจากการใช้น้ำยาบ้วนปาก ที่มีคุณสมบัติเป็นน้ำ ซึ่งต่างจากเยื่อหุ้มเซลล์ของเชื้อโรคในปากที่มีคุณสมบัติเป็นน้ำมัน น้ำกับน้ำมันไม่สามารถละลายเข้าด้วยกัน จึงไม่จับกัน จึงไม่สามารถดึงเอาเชื้อโรคต่าง ๆ ในช่องปากออกมาได้
          โดยโรคที่เกิดขึ้นจากเชื้อโรคในปากนั้น หากไม่นับโรคจากพันธุกรรม อารมณ์ หรือจากการบาดเจ็บต่าง ๆ โรคเกือบจะทุกโรคล้วนเริ่มต้นจากเชื้อโรคในปาก เนื่องจากปากเป็นประตูเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย การกินอาหารที่เป็นพิษ หรือกินอาหารที่ไม่ถูกต้อง ก็จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ยิ่งไปกว่านั้นในปากและลำไส้ ยังเป็นที่อยู่ของแบคทีเรียนับพันล้านตัว ซึ่งบางชนิดก็อันตรายต่อร่างกาย บางชนิดก็ไม่อันตราย และบางชนิดก็เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ถ้าแบคทีเรียเหล่านี้สามารถเข้าสู่กระแสเลือด แม้แต่แบคทีเรียที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ก็สามารถทำให้เราเกิดโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ หรืออาจถึงแก่ความตายได้ เช่นถ้ามีแผลในปาก หรือเหงือกอักเสบ แบคทีเรียในปากอาจสามารถเข้าสู่กระแสเลือดได้โดยง่าย ซึ่งโรคที่มักเกิดจากเชื้อโรคในปาก ได้แก่ โรคจากสุขภาพปาก เช่น เหงือกร่น เหงือกอักเสบ กลิ่นปาก ปวดฟัน, โรคภูมิแพ้ หืดหอบ, ไซนัส, โรคลำไส้ ปัญหาการย่อยอาหาร, เบาหวาน, ปวดข้อ, โรคผิวหนัง, นอนไม่หลับ กรน ตื่นกลางดึก, สุขภาพของหลอดเลือดหัวใจ, กระดูกพรุน, ระบบประสาท, โรคติดต่อ เรื้อรังต่าง ๆ
วิธีกลั้วปากด้วย น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น
          การกลั้วปากด้วย น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น เป็นวิธีที่ง่าย สะดวก และปลอดภัย ใช้ได้กับทุกคน ทั้งเด็กเล็ก และผู้สูงอายุ โดยขั้นตอนเบื้องต้น หลังตื่นนอน ขณะที่ท้องว่าง ก่อนรับประทานอาหารเช้า ให้เอา น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น 2 ช้อนชาใส่เข้าปาก อย่าใส่มากกว่านั้น เพราะจะทำให้ไม่มีที่ว่างในช่องปากให้น้ำลายออกมาช่วยทำหน้าที่ ในตอนนี้ น้ำมันมะพร้าว จะค่อย ๆ ผสมกับน้ำลาย ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เอนไซม์ดึงสารพิษออกจากกระแสเลือด
          ถ้าเผลอกลืนลงคอไปบ้าง ก็ไม่เป็นไรมาก เพียงแต่อาจมีสารพิษเข้าสู่ร่างกายเล็กน้อย เพราะเชื้อโรคในปากจะถูก น้ำมันมะพร้าว ฆ่าตายหมดแล้ว เชื้อโรคที่ตายแล้วและสารพิษที่เผลอกลืนเข้าไปบ้าง จะถูกขับออกมาทางอุจจาระ
          กลั้วกลอก น้ำมันมะพร้าว ในปากให้ผ่านฟันไป ๆ มา ๆ ให้ทั่วทั้งปาก โดยใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที เมื่อกลั้วปากไปได้สักพัก จะรู้สึกว่า น้ำมันมะพร้าว เบาบางลง ไม่หนืด มีลักษณะคล้ายน้ำสีขาวขุ่น มีฟองอากาศปะปนอยู่ ให้บ้วนทิ้ง โดยอย่าบ้วนทิ้งลงอ่างล้างหน้า หรือท่อน้ำ เพราะแบคทีเรีย และสารพิษ ที่ น้ำมันมะพร้าว ดึงออกมาจากปากเป็นสารอินทรีย์ จะทำให้ท่อน้ำอุดตันได้ และอย่าบ้วนทิ้งในกระถางต้นไม้ เพราะอาจทำให้ต้นไม้ตายได้ โดยหลังจากกลั้วปากด้วย น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น เรียบร้อยแล้ว อาจแปรงฟัน หรือบ้วนปาก หรืออาจใช้นิ้วทำความสะอาดฟันเพิ่มเติมก็ได้
          การกลั้วปากด้วย น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ควรทำในตอนเช้า เนื่องจากเป็นเวลาที่มีปริมาณแบคทีเรียในช่องปากมากที่สุด ปริมาณแบคทีเรียในช่องปากมีการเปลี่ยนแปลงในระหว่างวัน การรับประทานอาหารทำให้แบคทีเรียบางส่วนผสมกับอาหารและน้ำลาย ผ่านเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งปริมาณมีมากสุดในตอนเช้าการแปรงฟันช่วยลดแบคทีเรียในปากได้เพียง 10% และก่อนอาหารกลางวัน ปริมาณแบคทีเรียก็จะเพิ่มขึ้นอีก พอ ๆ กับตอนเช้า และจะลดลงมากที่สุดหลังอาหารเย็น และเมื่อนอนหลับ แบคทีเรียก็จะกลับเพิ่มขึ้นมาใหม่ และมีปริมาณมากที่สุดในตอนเช้านั่นเอง

วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2562

น้ำมันมะพร้าว ช่วยลดความอ้วน


          น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น มีฤทธิ์ในการลดไขมันของร่างกาย และลดน้ำหนัก เนื่องจากว่า น้ำมันมะพร้าว มีพลังงานน้อยกว่าไขมันอื่น ๆ ด้วยเหตุนี้ น้ำมันมะพร้าว จึงได้ชื่อว่า เป็นน้ำมันชนิดเดียวในโลก ที่เป็นไขมันธรรมชาติ ที่มีแคลอรี่ต่ำที่สุด ฉะนั้นเมื่อเราใส่ น้ำมันมะพร้าว ในอาหาร เราก็จะสามารถกินอาหารชนิดเดียวกับที่เคยกิน แต่ได้แคลอรี่ที่ต่ำกว่า
ทำไม น้ำมันมะพร้าว จึงช่วยลดความอ้วนได้
          น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น เป็นอาหารที่ผู้คนในบางพื้นที่ใช้บริโภคเป็นประจำ เช่น ชาวหมู่เกาะทะเลใต้ ทางตอนใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งจะเห็นได้ว่าผู้คนในแถบนี้จะมีรูปร่างสมส่วน ไม่อ้วน ทั้งนี้เพราะ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ที่พวกเขาบริโภคอยู่เป็นประจำช่วยลดความอ้วนได้ แล้วทำไม น้ำมันมะพร้าว จึงช่วยลดความอ้วนได้
1.       น้ำมันมะพร้าว ช่วยกระตุ้นเมตาบอลิสซึม สิ่งที่ทำให้ น้ำมันมะพร้าว มีข้อได้เปรียบในการควบคุมน้ำหนักอยู่ที่ผลของมันต่อขบวนการเมตาบอลิสซึม น้ำมันมะพร้าว มีโมเลกุลขนาดเล็กกว่าน้ำมันอื่น ๆ เพราะฉะนั้น น้ำมันมะพร้าว จึงย่อยได้ง่ายและเร็วมาก เร็วจนกระทั่งร่างกายสามารถนำไปเป็นแหล่งพลังงานได้ทันที มากกว่าที่จะนำไปสะสมเป็นอาหารสำรองในรูปของไขมันที่สะสมอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย น้ำมันมะพร้าว จะถูกใช้ไปเพื่อสร้างพลังงาน คล้ายกับคาร์โบไฮเดรต ดังนั้น น้ำมันมะพร้าว จึงไม่เคลื่อนตัวในกระแสเลือดเหมือนน้ำมันชนิดอื่น ๆ น้ำมันมะพร้าว จึงไม่มีส่วนในการจัดหาไขมันให้แก่เซลล์ไขมัน หรือไปเพิ่มน้ำหนักตัวให้กับร่างกายนั่นเอง
และเพราะว่า น้ำมันมะพร้าว ถูกใช้โดยร่างกายเป็นแหล่งเชื้อเพลิงเพื่อผลิตพลังงาน มันจึงมีผลกระตุ้นกระบวนการเมตาบอลิสซึม ซึ่งจะไปช่วยเพิ่มการใช้แคลอรี่ของร่างกาย ฉะนั้น แคลอรี่ที่เราบริโภคเข้าไปในรูปของอาหาร จึงถูกเผาผลาญในอัตราที่สูงขึ้น และจะเหลือปริมาณที่น้อยลงที่จะสะสมเป็นไขมันในร่างกาย
2.       น้ำมันมะพร้าว ทำให้เกิดความร้อนสูง การเพิ่มอัตราเมตาบอลิสซึมนี้ยังนำไปสู่การเกิดความร้อนที่สูง นั่นก็คือการเพิ่มอุณหภูมิของร่างกาย อุณหภูมิของร่างกายอาจจะเพิ่มขึ้น 1-2 องศา หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับปริมาณ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ที่บริโภคเข้าไป ซึ่งจะกระตุ้นให้ต่อมธัยรอยด์ทำงานดีขึ้น และจะช่วยลดน้ำหนักได้
3.       น้ำมันมะพร้าว ช่วยชะลอความหิว สิ่งหนึ่งที่ น้ำมันมะพร้าว ช่วยได้คือ มันช่วยลดปริมาณรวมของการบริโภคอาหารและแคลอรี่ เมื่อเติม น้ำมันมะพร้าว ลงในอาหาร ก็จะกินอาหารได้น้อยลง และยังทำให้อิ่มนานขึ้น เป็นผลให้บริโภคอาหารในมื้อต่อไปได้น้อยลงด้วย
4.       น้ำมันมะพร้าว ช่วยเปลี่ยนไขมันที่สะสมไว้ในร่างกายให้เป็นพลังงาน น้ำมันมะพร้าว ทำให้อุณหภูมิของร่างกายสูงขึ้น มีผลให้ต่อมธัยรอยด์ทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งช่วยให้เผาผลาญอาหารที่บริโภคเข้าไปเป็นพลังงาน แทนที่จะสะสมเป็นไขมันในร่างกาย ความร้อนที่สูงขึ้นยังไปช่วยสลายไขมันที่สะสมในร่างกายอยู่ก่อนแล้ว ให้สลายตัวไปเป็นพลังงาน จึงทำให้รู้สึกผอมลงได้ สังเกตได้จากคนไทยสมัยก่อนไม่ค่อยมีใครอ้วน เพราะบริโภค น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น กะทิ กันเป็นประจำ
วิธีใช้ น้ำมันมะพร้าว เพื่อลดความอ้วน
1.       บริโภค น้ำมันมะพร้าว โดยตรง ใช้ดื่มหรือเทใส่ช้อนเพื่อรับประทานได้ทันทีตามสะดวก และปริมาณตามความเหมาะสม ซึ่ง น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น มีกลิ่นหอม ไม่เหนียวเหนอะหนะ กลืนได้สะดวกไม่ติดคอ เหมือนน้ำมันชนิดอื่น ๆ
2.       ใช้ น้ำมันมะพร้าว ผสมลงในอาหารหรือเครื่องดื่ม น้ำมันมะพร้าว สามารถผสมเข้ากันได้กับอาหารมากมายหลากหลายชนิด โดยไม่ทำให้อาหารหรือเครื่องดื่มนั้น ๆ เสียรสชาติ หรือ คุณค่าทางอาหารไป น้ำมันมะพร้าว สามารถผสมกับ โจ๊ก ซุป แกงจืด น้ำส้ม น้ำผลไม้ ชา กาแฟ โอวัลติน เป็นต้น
3.       ใช้ น้ำมันมะพร้าว ปรุงอาหาร เราสามารถใช้ น้ำมันมะพร้าว ผัดหรือทอดอาหารต่าง ๆ ได้ โดย น้ำมันมะพร้าว จะไม่เปลี่ยนเป็นไขมันทรานส์ ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ต่างกับน้ำมันไม่อิ่มตัวชนิดอื่น ๆ ที่เมื่อโดนความร้อนสูงก็จะเปลี่ยนเป็นไขมันทรานส์ได้
4.       น้ำมันมะพร้าว ใช้ร่วมกับการสปา สปา หมายถึง วิธีการดูแลสุขภาพโดยการทำความสะอาด และเสริมอาหารบำรุงให้ลึกถึงผิวชั้นใน โดยมีวิธีการต่าง ๆ เช่น การนวด การบำบัดด้วยน้ำ เป็นต้น ในปัจจุบันมีการใช้ น้ำมันมะพร้าว ในการสปามากมาย เพราะ น้ำมันมะพร้าว ซึมเข้าภายในผิวชั้นในได้รวดเร็ว โดยมักมีการผสมกับน้ำมันหอมระเหย เพื่อช่วยให้มีกลิ่นหอมมากยิ่งขึ้น ใช้นวดเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกันก็จะช่วยลดความอ้วนไปได้ในตัว

วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2562

น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ใช้กันแดด


          น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ถูกใช้มาทาผิวเพื่อกันแดดมานานหลายพันปีมาแล้ว โดยชนชาติที่อาศัยอยู่ตามหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งเป็นบริเวณที่มีอากาศร้อนและชื้นมาก ผู้คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้จึงมีความจำเป็นต้องรักษาผิวกายของตัวเองไม่ให้ถูกแดดที่ร้อนจัดเผาทำลาย จึงได้ใช้ น้ำมันมะพร้าว มาทาบาง ๆ ที่ผิว เพื่อไม่ให้ผิวไหม้จากแดด ว่ากันว่าเด็กที่เกิดใหม่ พ่อแม่ก็จะเอา น้ำมันมะพร้าว มาทาตัวแล้ว ทากันตลอดทุกวันจนกระทั่งถึงวันตาย การทาผิวด้วย น้ำมันมะพร้าว จึงถือเป็นกิจวัตรประจำวันของผู้คนที่อาศัยอยู่บริเวณแถบนี้
          น้ำมันมะพร้าว ก็เป็นส่วนประกอบสำคัญของครีมทากันแดดที่มีวางขายกันในปัจจุบัน ถ้าสังเกตดูจะเห็นว่าครีมทากันแดดมากมายหลายยี่ห้อ ก็มักจะใช้ น้ำมันมะพร้าว เป็นส่วนประกอบสำคัญ ซึ่งนอกจาก น้ำมันมะพร้าว จะช่วยป้องกันผิวจากแสงแดดได้แล้ว น้ำมันมะพร้าว ยังมีประสิทธิภาพในการช่วยรักษาผิวหนังได้อีกด้วย เนื่องจาก น้ำมันมะพร้าว มีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ที่จะช่วยป้องกันรักษาการไหม้เกรียมจากแดด และยังป้องกันกระบวนการที่ทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย

ข้อดีของ น้ำมันมะพร้าว ในการใช้ทากันแดด
         น้ำมันมะพร้าว ทำให้ผิวหนังชินกันการถูกแสงแดด ผิวหนังที่อยู่ในร่มตลอดเวลา แต่ถ้าต้องออกไปเจอแสงแดด เช่น ไปเที่ยวทะเล ผิวหนังจะถูกแสงแดดทำลายได้ง่ายมาก ถึงแม้จะทา น้ำมันมะพร้าว ก็อาจจะช่วยไม่ได้ ฉะนั้นจึงควรให้ผิวหนังได้สัมผัสแสงแดดก่อนบ้าง โดยทา น้ำมันมะพร้าว บาง ๆ แล้วออกไปสัมผัสแสงแดดเป็นเวลาสัก 15-30 นาที ทำซ้ำอย่างนี้สัก 1-2 สัปดาห์ โดยเพิ่มระยะเวลาสัมผัสแสงแดดสักวันละ 5-10 นาที เพื่อให้ผิวหนังได้ชินกับแสงแดด โดยในแต่ละวัน น้ำมันมะพร้าว ก็จะช่วยป้องกันผิวจากแสงแดดมากขึ้น ๆ จนทำให้ผิวสามารถต่อสู้กันแสงแดดแรง ๆ ได้ โดยการทา น้ำมันมะพร้าว เพียงบาง ๆ
          น้ำมันมะพร้าว ทำให้ผิวเปลี่ยนเป็นสีแทนเมื่อถูกแดด การชโลมตัวด้วย น้ำมันมะพร้าว ก่อนออกไปถูกแดด จะทำให้ผิวเปลี่ยนเป็นสีแทนเมื่อถูกแดด ผิวจะดูสวยงาม มีประกายสดใส ผิวสีแทนเป็นสีที่แสดงว่าผิวสามารถต่อสู้กับการไหม้เกรียมแดดได้มากขึ้น
          น้ำมันมะพร้าว ช่วยป้องกันและรักษาผิวหนังมีอาการไหม้เกรียมแดดได้ คนไทยสมัยก่อนไม่มีปัญหาเรื่องผิวหนังไหม้เกรียมเพราะแดด เพราะบริโภค น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น เป็นประจำ ซึ่งทำให้ต่อมใต้ผิวหนังที่มีน้ำมันที่ชื่อว่า sebum ผลิตไขมันร่วมกันเหงื่อ ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้ผิวหนังเกิดอาการไหม้เกรียมแดด เมื่อถูกแสงแดดแรง ๆ น้ำมันตัวนี้ เป็นกรดไขมันอิ่มตัวขนาดกลาง ซึ่งได้มาจาก น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ที่บริโภคเข้าไป ในปัจจุบันผู้คนไม่ได้บริโภค น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น มากนัก จึงทำให้ผิวหนังมักจะไหม้เกรียมจากแสงแดดได้โดยง่าย
          น้ำมันมะพร้าว ช่วยป้องกันการอักเสบหรือไหม้เกรียมแดดของผิวหนังเมื่อโดนแสงแดดแรงเป็นเวลานาน ๆ ได้ ก็เนื่องจาก น้ำมันมะพร้าว มีวิตามินอี ที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ และป้องกันมะเร็วผิวหนังได้อีกด้วย ดังนั้น น้ำมันมะพร้าว จึงใช้เป็นส่วนประกอบของครีมกันแดดได้เป็นอย่างดี อีกทั้งไม่เหนียวเหนอะหนะเหมือนสารกันแดดอื่น ๆ และ น้ำมันมะพร้าว มีราคาถูกกว่าด้วย อย่างไรก็ตามหากเราบริโภคน้ำมันไม่อิ่มตัวในปริมาณมากอยู่ เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันข้าวโพด น้ำมันดอกคำฝอย เป็นต้น ก็จะยังทำให้ผิวหนังไหม้เกรียมแดดได้ง่ายอยู่ดี ถึงแม้จะรับประทาน น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น แล้วก็ตาม เนื่องจากผิวหนังจะยังมีน้ำมันไม่อิ่มตัวเหล่านั้นสะสมอยู่ ซึ่งทำให้ผิวหนังไหม้เกรียมแดดได้ง่าย จึงควรลดการบริโภคน้ำมันไม่อิ่มตัวเหล่านั้นลงด้วย
          น้ำมันมะพร้าว ยังช่วยรักษาอาการของผิวหนังที่ไหม้เกรียมแดด เป็นสีแดง ได้ด้วย เมื่อทา น้ำมันมะพร้าว ผิวหนังจะหายแดง หายปวดแสบปวดร้อนได้ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง

วิธีใช้ น้ำมันมะพร้าว เพื่อกันแดด
          ใช้ น้ำมันมะพร้าว ทาผิวหนัง โดยทาลงบนผิวหนังโดยตรง ได้ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า โดยไม่จำเป็นต้องทามากเกินไป จะเป็นการสิ้นเปลือง เพราะจะถูกเสื้อผ้าหรือมือเช็ดออกอยู่ดี โดยหลังจากทาไม่เกิน 2 นาที น้ำมันมะพร้าว ก็จะถูกดูดซึมเข้าไปใต้ผิวหนัง และจะเริ่มทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้ผิวหนังไหม้เกรียมจากการถูกแสงแดด
          ใช้ น้ำมันมะพร้าว โดยการรับประทาน การรับประทาน น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น จะช่วยให้ร่างกายทั้งระบบป้องกันอันตรายจากแสงแดดได้